เทคนิคการเล่น TFEX เอามาฝากกัน ไปอ่านเจอโดยพี่ MyTrade&TFEX เจ้าของเพจFacebookขอบคุณมากครับ
เล่น TFEX มาสองเดือนแล้ว ถนัดเล่นที่ 4 สัญญา เลยฝากเงินไว้ 350,000 บาท (เกือบสองเท่าของจำนวนสัญญา) วันแรกเริ่มต้น 2 สัญญา ได้มา 5000 บาท วันที่สอง เล่น 4 สัญญาเลย (ใจใหญ่) ได้มา 25,000 บาท เอาอีก วันที่ 3 ได้มา 25,000 บาท เอาอีก วันที่ 4 ได้มา หมื่นกว่าบาท ช่วงนี้เรียกว่าช่วงโปรโมชั่นค่ะ ระเริงมาก ได้มาประมาณ 70,000 บาท โห อะไรจะได้เงินง่ายขนาดนี้ เอาเลย อาทิตย์ต่อมาซื้อขายทุกวัน บางวันไม่มั่นใจยังซื้อ เรียกว่าเก็งกำไรกันไปเลย เห็นสนาม TFEX เป็นโต๊ะแทงบอล! อีก 2 อาทิตย์ต่อมา ขาดทุนไป 220,000!!! อึ้งไปเลย ค่าเรียนแพงมากกกกกก
หลังจากนั้นกลับมาคิดว่าทำไมเราเสีย หยุดไปอาทิตย์หนึ่ง วิเคราะห์ไปมา กลับมาเล่นใหม่สรุป 2 เดือนได้กำไร 570,000 (หักลบกลบหนี้ที่ขาดทุนไปเหลือกำไรอยู่ 350,000 บาท) ไปจับประเด็นของตัวเองถูก เผื่อใครอยากเอาไปใช้บ้างค่ะ
1) อย่าเสี่ยง อย่าทำอะไรที่ท่านไม่มั่นใจ อย่าทำอะไรที่คาดเดาโดยสัญชาติญาณ เพราะนั่นจะถือว่าท่านเล่นพนัน ถ้าท่านไม่มีดวงพนัน ท่านอาจหมดตัว และ TFEX ไม่จำเป็นต้องเล่นทุกวัน เล่นวันที่ท่านมั่นใจเท่านั้น เพราะพลาดที ท่านอาจหมดตัวได้ ไม่คุ้มกัน ***ข้อนี้สำคัญมากๆ***
2) Cut Loss ต้องไวมาก ไม่ปล่อยให้ขาดทุนมากขึ้นเรื่อยๆ หรืออาจใช้การเปิดสัญญาฝั่งตรงข้ามอีก series ขัดขา
3) ซื้อตามตลาด หมายถึงขาลง จะเน้นซื้อ Short เกือบทุกครั้ง ซื้อ 10 ครั้ง จะซื้อ Long แค่ 1-2 ครั้ง เท่านั้น และจะซื้อ Long เมื่อ สุดจะมั่นใจเท่านั้น การ Long กับขาลง มันอาจไม่กลับมารับเรา แล้วดอย TFEX หน่ะไม่มีนะ เพราะคุณจะถูกเรียกเติมเงินจนหมดตัว คุณต้องรวยมากๆ คุณถึงอยู่ดอยได้ อยู่ทุกวันจะเสียตังค์ทุกวันด้วย ค่าพักแพงมาก จุดละ 1000 พันค่ะ อย่างเดือนกันยายน เราเก็บสถิติไว้ เรา Long ไปสามหน ขาดทุนหนึ่งหน (1 ใน 3) ที่เหลืออีก 11 หน Short อย่างเดียว ขาดทุนหนึ่งหน
4) ขาลง Short ที่แนวต้าน ขายที่แนวรับ Let profit runs. ไม่เน้นซื้อๆ ขายๆ ส่วนแนวต้านกับแนวรับหาอย่างไร แต่ละคนก็คงมีเทคนิคเฉพาะตัวอีกเหมือนกัน ตัวอย่างเช่น วันที่ 21 ตอนเย็น ที่เราได้พยากรณ์ไว้ว่าหุ้นจะขึ้น หุ้นก็ขึ้นมาจริงๆ แล้วประจวบเหมาะว่าราคา z series ได้มาถึงแนวต้านพอดี เราเลย Short ไว้ 7 สัญญา เรียกว่าเอากันหมดหน้าตักไปเลย (ปกติไม่เคย Short เยอะขนาดนี้) วันรุ่งขึ้นขายไป 5 สัญญาที่ประมาณ 304-306 แต่พอมาวันที่ 24 หุ้นลงต่อ ทำให้ต้องเข้าไป Short เพิ่มอีก 5 สัญญาที่ขายไป แต่ได้ราคาต่ำว่าที่ขายไปเยอะ จะเห็นได้ว่า การซื้อๆ ขายๆ ไม่ได้กำไรเท่ากับถือให้ Let profit runs.
5) อย่าไล่ราคา เช่น วันที่ 22-24 ตุลาคมที่ผ่านมา z ลงมาเยอะแล้ว อีกไม่กี่จุดจะถึงแนวรับแล้ว ถ้าท่านมีการ Short ไว้ล่วงหน้าตั้งแต่ช่วงราคา 300 ขึ้นไป ท่านอาจ Short เพิ่ม เพราะยังไงต้นทุนท่านดีอยู่แล้ว แต่ถ้าท่านไม่มีสัญญาเก็บไว้เลย แล้วท่านไปต่อคิว Short 700 คิว (เย็นวันที่ 24 ตุลาคม) กับเขาด้วย ได้มาแล้ว ตัว Z ที่ 286 (Floor) ในวันที่ 24 ท่านถือว่าเป็นผู้โชคดีเหมือนถูกหวย แต่วันที่ 27 จะยังไงดีหล่ะ ความเสี่ยงมีสูงค่ะ เหมือนหุ้นที่เขาไล่ราคากันไปสูงๆ แล้วท่านยังเข้าไปแจม ตามความเห็นส่วนตัว จะแนะว่า ไว้เล่น รอบหน้าดีไหม เอาไว้อีกหนึ่งหรือสองอาทิตย์มีการ Rebound มาที่แนวต้าน แล้วค่อย Short ละกัน
6) กรณีที่ Shortไว้ ถ้าผิดทาง กลับไปทางบวก ส่วนตัวแล้วถ้าคิดว่า Rebound ไม่ไกล จะเปิด Long อีก series block ขาดทุนไว้ ยังไม่ Cut Loss เพราะการ Short ในขาลง มีโอกาสสูงมากที่ราคาจะลงมาทำให้ท่านไม่ขาดทุน ดังนั้น ท่านควรเตรียมเงินในพอร์ตไว้อีกหนึ่งเท่าตัวเผื่อจะเปิดสัญญาตรงข้าม ถึงเวลาก็ปิด Long แล้วเปิด Short ลงมาใหม่
7) ถ้าท่านไม่มั่นใจ อย่าริถือสัญญาณข้ามวัน เพราะท่านจะไม่ทราบว่าตอนกลางคืน บุช จะกล่าวอะไร Fed จะทำอะไร ใครจะตีกับใคร วันรุ่งขึ้น เงินท่านอาจหายไปครึ่งหนึ่ง ไม่แนะนำให้ทำ เพราะเห็นคนขาดทุนกันเยอะค่ะจากการทำเช่นนี้ แต่สำหรับตัวเอง ถนัดแต่ซื้อข้ามคืน ก็ดูดาวไว้เลยว่าพรุ่งนี้ ดวง Set จะดีหรือไม่ดี ไม่ค่อยซื้อขายในวัน เพราะไม่ทราบว่า Market Maker ทำอะไรระหว่างวัน อันนี้แล้วแต่ความถนัดเฉพาะบุคคลค่ะ
8) ข่าวต้องไวมาก อย่างเช่น สองอาทิตย์ที่แล้ว เปิด long ไว้ล่วงหน้าตอนเย็น เปิดตลาดมาหุ้นขึ้นมาแต่เช้า กำไร ใน Port 80,000 กว่าบาท แค่ว่าเขมรยิงนัดแรกออกรอยเตอร์ เราขายทันที เหลือกำไรแค่ 23,000 บาท แต่ถ้าไม่ทราบข่าวรอข่าวออกทีวีอีกไม่กี่นาทีให้หลัง จะกลายเป็นขาดทุนทันที แนะให้หามาร์เก็ตติ้งคู่ใจ ข่าวไว ไว้สักคน
9) ต้องมีเวลาติดตามจ้องจอ หรือตั้งเตือนตลอด พลาดไม่ได้
10) ฝากบอกว่าหน่อยว่า TFEX แม้จะอิง SET50 แต่ไม่จำเป็นต้องตามกัน บางวันหุ้นนิ่ง TFEX วิ่งขึ้นลงตามใจ Market Maker บางวัน TFEX อยู่เหนือ SET50 ซึ่งจะเกิดในช่วงที่มีข่าวดีมากๆ ออกมา เช่นนาทีที่บุชบอกว่าจะอัดฉีด 7 แสนล้าน ตอนนั้น วิ่งไปเหนือ SET50 เลย (ก็ TFEX คือ Futures แปลตรงตัว คือการมองไปที่อนาคต คนมองว่าราคา TFEX ต้องขึ้น ราคาหุ้นวิ่งขึ้นไม่ทัน ราคา TFEX เลยวิ่งขึ้นไปรอก่อน) และอย่างช่วงอาทิตย์กว่าที่ผ่านมา TFEX ต่ำกว่า SET50 10-15 จุด ซึ่งปกติจะห่าง 3-5 จุดเท่านั้น แสดงว่าคนมองแล้วว่ายังไงลงต่อแน่ๆ แต่อาจมีบางวันหุ้นลงแล้ว TFEX ขึ้น ซึ่งอาจเกิดขึ้นในไม่ช้า เพราะคนมา Short TFEX กันเยอะมาก ราคาต่ำไป ต่ำกว่า SET50 มากไป อันนี้ต้องระวัง
สรุปว่าไม่มั่นใจ อย่าเพิ่งทำอะไร ยกเว้นมั่นใจเท่านั้น
หรือว่าจะรอเทรด Futures หุ้นรายตัว อาจจะดีกว่า เพราะคาดการณ์ได้ง่ายกว่า รอปลายเดือนพฤศจิกายนก็มีแล้วค่ะ
เคยมีโอกาสฟังกูรูชาวออสเตรเลียท่านนึง เก่งเรื่อง Futures ที่ออสเตรเลีย เขาขึ้นชื่ออันดับต้นๆ ของประเทศเขาเลย คนนี้ เขาไม่เล่นหุ้น ไม่ชำนาญ แต่ Trade Futures จนเป็นมหาเศรษฐี เขาไม่ใช้ Techincal พวก Sto, Rsi, พวกนี้ เขาใช้แค่ Moving Average ค่ะ ซื้อ 10 ครั้ง เขาได้ 7 ครั้ง ก็ได้เกล็ดเล็กเกร็ดน้อยจากเขามาใช้ (ซึ่งบางส่วนอยู่ในหัวข้อที่เขียนข้างบนค่ะ)
หลังจากนั้นกลับมาคิดว่าทำไมเราเสีย หยุดไปอาทิตย์หนึ่ง วิเคราะห์ไปมา กลับมาเล่นใหม่สรุป 2 เดือนได้กำไร 570,000 (หักลบกลบหนี้ที่ขาดทุนไปเหลือกำไรอยู่ 350,000 บาท) ไปจับประเด็นของตัวเองถูก เผื่อใครอยากเอาไปใช้บ้างค่ะ
1) อย่าเสี่ยง อย่าทำอะไรที่ท่านไม่มั่นใจ อย่าทำอะไรที่คาดเดาโดยสัญชาติญาณ เพราะนั่นจะถือว่าท่านเล่นพนัน ถ้าท่านไม่มีดวงพนัน ท่านอาจหมดตัว และ TFEX ไม่จำเป็นต้องเล่นทุกวัน เล่นวันที่ท่านมั่นใจเท่านั้น เพราะพลาดที ท่านอาจหมดตัวได้ ไม่คุ้มกัน ***ข้อนี้สำคัญมากๆ***
2) Cut Loss ต้องไวมาก ไม่ปล่อยให้ขาดทุนมากขึ้นเรื่อยๆ หรืออาจใช้การเปิดสัญญาฝั่งตรงข้ามอีก series ขัดขา
3) ซื้อตามตลาด หมายถึงขาลง จะเน้นซื้อ Short เกือบทุกครั้ง ซื้อ 10 ครั้ง จะซื้อ Long แค่ 1-2 ครั้ง เท่านั้น และจะซื้อ Long เมื่อ สุดจะมั่นใจเท่านั้น การ Long กับขาลง มันอาจไม่กลับมารับเรา แล้วดอย TFEX หน่ะไม่มีนะ เพราะคุณจะถูกเรียกเติมเงินจนหมดตัว คุณต้องรวยมากๆ คุณถึงอยู่ดอยได้ อยู่ทุกวันจะเสียตังค์ทุกวันด้วย ค่าพักแพงมาก จุดละ 1000 พันค่ะ อย่างเดือนกันยายน เราเก็บสถิติไว้ เรา Long ไปสามหน ขาดทุนหนึ่งหน (1 ใน 3) ที่เหลืออีก 11 หน Short อย่างเดียว ขาดทุนหนึ่งหน
4) ขาลง Short ที่แนวต้าน ขายที่แนวรับ Let profit runs. ไม่เน้นซื้อๆ ขายๆ ส่วนแนวต้านกับแนวรับหาอย่างไร แต่ละคนก็คงมีเทคนิคเฉพาะตัวอีกเหมือนกัน ตัวอย่างเช่น วันที่ 21 ตอนเย็น ที่เราได้พยากรณ์ไว้ว่าหุ้นจะขึ้น หุ้นก็ขึ้นมาจริงๆ แล้วประจวบเหมาะว่าราคา z series ได้มาถึงแนวต้านพอดี เราเลย Short ไว้ 7 สัญญา เรียกว่าเอากันหมดหน้าตักไปเลย (ปกติไม่เคย Short เยอะขนาดนี้) วันรุ่งขึ้นขายไป 5 สัญญาที่ประมาณ 304-306 แต่พอมาวันที่ 24 หุ้นลงต่อ ทำให้ต้องเข้าไป Short เพิ่มอีก 5 สัญญาที่ขายไป แต่ได้ราคาต่ำว่าที่ขายไปเยอะ จะเห็นได้ว่า การซื้อๆ ขายๆ ไม่ได้กำไรเท่ากับถือให้ Let profit runs.
5) อย่าไล่ราคา เช่น วันที่ 22-24 ตุลาคมที่ผ่านมา z ลงมาเยอะแล้ว อีกไม่กี่จุดจะถึงแนวรับแล้ว ถ้าท่านมีการ Short ไว้ล่วงหน้าตั้งแต่ช่วงราคา 300 ขึ้นไป ท่านอาจ Short เพิ่ม เพราะยังไงต้นทุนท่านดีอยู่แล้ว แต่ถ้าท่านไม่มีสัญญาเก็บไว้เลย แล้วท่านไปต่อคิว Short 700 คิว (เย็นวันที่ 24 ตุลาคม) กับเขาด้วย ได้มาแล้ว ตัว Z ที่ 286 (Floor) ในวันที่ 24 ท่านถือว่าเป็นผู้โชคดีเหมือนถูกหวย แต่วันที่ 27 จะยังไงดีหล่ะ ความเสี่ยงมีสูงค่ะ เหมือนหุ้นที่เขาไล่ราคากันไปสูงๆ แล้วท่านยังเข้าไปแจม ตามความเห็นส่วนตัว จะแนะว่า ไว้เล่น รอบหน้าดีไหม เอาไว้อีกหนึ่งหรือสองอาทิตย์มีการ Rebound มาที่แนวต้าน แล้วค่อย Short ละกัน
6) กรณีที่ Shortไว้ ถ้าผิดทาง กลับไปทางบวก ส่วนตัวแล้วถ้าคิดว่า Rebound ไม่ไกล จะเปิด Long อีก series block ขาดทุนไว้ ยังไม่ Cut Loss เพราะการ Short ในขาลง มีโอกาสสูงมากที่ราคาจะลงมาทำให้ท่านไม่ขาดทุน ดังนั้น ท่านควรเตรียมเงินในพอร์ตไว้อีกหนึ่งเท่าตัวเผื่อจะเปิดสัญญาตรงข้าม ถึงเวลาก็ปิด Long แล้วเปิด Short ลงมาใหม่
7) ถ้าท่านไม่มั่นใจ อย่าริถือสัญญาณข้ามวัน เพราะท่านจะไม่ทราบว่าตอนกลางคืน บุช จะกล่าวอะไร Fed จะทำอะไร ใครจะตีกับใคร วันรุ่งขึ้น เงินท่านอาจหายไปครึ่งหนึ่ง ไม่แนะนำให้ทำ เพราะเห็นคนขาดทุนกันเยอะค่ะจากการทำเช่นนี้ แต่สำหรับตัวเอง ถนัดแต่ซื้อข้ามคืน ก็ดูดาวไว้เลยว่าพรุ่งนี้ ดวง Set จะดีหรือไม่ดี ไม่ค่อยซื้อขายในวัน เพราะไม่ทราบว่า Market Maker ทำอะไรระหว่างวัน อันนี้แล้วแต่ความถนัดเฉพาะบุคคลค่ะ
8) ข่าวต้องไวมาก อย่างเช่น สองอาทิตย์ที่แล้ว เปิด long ไว้ล่วงหน้าตอนเย็น เปิดตลาดมาหุ้นขึ้นมาแต่เช้า กำไร ใน Port 80,000 กว่าบาท แค่ว่าเขมรยิงนัดแรกออกรอยเตอร์ เราขายทันที เหลือกำไรแค่ 23,000 บาท แต่ถ้าไม่ทราบข่าวรอข่าวออกทีวีอีกไม่กี่นาทีให้หลัง จะกลายเป็นขาดทุนทันที แนะให้หามาร์เก็ตติ้งคู่ใจ ข่าวไว ไว้สักคน
9) ต้องมีเวลาติดตามจ้องจอ หรือตั้งเตือนตลอด พลาดไม่ได้
10) ฝากบอกว่าหน่อยว่า TFEX แม้จะอิง SET50 แต่ไม่จำเป็นต้องตามกัน บางวันหุ้นนิ่ง TFEX วิ่งขึ้นลงตามใจ Market Maker บางวัน TFEX อยู่เหนือ SET50 ซึ่งจะเกิดในช่วงที่มีข่าวดีมากๆ ออกมา เช่นนาทีที่บุชบอกว่าจะอัดฉีด 7 แสนล้าน ตอนนั้น วิ่งไปเหนือ SET50 เลย (ก็ TFEX คือ Futures แปลตรงตัว คือการมองไปที่อนาคต คนมองว่าราคา TFEX ต้องขึ้น ราคาหุ้นวิ่งขึ้นไม่ทัน ราคา TFEX เลยวิ่งขึ้นไปรอก่อน) และอย่างช่วงอาทิตย์กว่าที่ผ่านมา TFEX ต่ำกว่า SET50 10-15 จุด ซึ่งปกติจะห่าง 3-5 จุดเท่านั้น แสดงว่าคนมองแล้วว่ายังไงลงต่อแน่ๆ แต่อาจมีบางวันหุ้นลงแล้ว TFEX ขึ้น ซึ่งอาจเกิดขึ้นในไม่ช้า เพราะคนมา Short TFEX กันเยอะมาก ราคาต่ำไป ต่ำกว่า SET50 มากไป อันนี้ต้องระวัง
สรุปว่าไม่มั่นใจ อย่าเพิ่งทำอะไร ยกเว้นมั่นใจเท่านั้น
หรือว่าจะรอเทรด Futures หุ้นรายตัว อาจจะดีกว่า เพราะคาดการณ์ได้ง่ายกว่า รอปลายเดือนพฤศจิกายนก็มีแล้วค่ะ
เคยมีโอกาสฟังกูรูชาวออสเตรเลียท่านนึง เก่งเรื่อง Futures ที่ออสเตรเลีย เขาขึ้นชื่ออันดับต้นๆ ของประเทศเขาเลย คนนี้ เขาไม่เล่นหุ้น ไม่ชำนาญ แต่ Trade Futures จนเป็นมหาเศรษฐี เขาไม่ใช้ Techincal พวก Sto, Rsi, พวกนี้ เขาใช้แค่ Moving Average ค่ะ ซื้อ 10 ครั้ง เขาได้ 7 ครั้ง ก็ได้เกล็ดเล็กเกร็ดน้อยจากเขามาใช้ (ซึ่งบางส่วนอยู่ในหัวข้อที่เขียนข้างบนค่ะ)
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น